The Untamed Fatal Journey (2020) เต็มเรื่อง ผสมผสานเข้ากับเรื่องราวที่สร้างขึ้นใน “The Untamed” ได้อย่างราบรื่น โดยจะรักษาโทน สไตล์ และแก่นแท้ของซีรีส์ต้นฉบับ เพื่อให้แฟนๆ ได้รับประสบการณ์การรับชมที่สอดคล้องกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เสริมเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครที่คุ้นเคยเท่านั้น แต่ยังวางรากฐานสำหรับความสัมพันธ์และความขัดแย้งที่ซับซ้อนที่เปิดเผยในซีรีส์หลักอีกด้วย
เสียงสะท้อนทางอารมณ์: จุดแข็งประการหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่ความสามารถในการกระตุ้นอารมณ์ที่หลากหลายจากผู้ชม ตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งเสียงหัวเราะและความสนิทสนมกันไปจนถึงฉากการเสียสละและการสูญเสียที่บีบคั้นหัวใจ “Fatal Journey” ดึงความรู้สึกที่ลึกซึ้ง การลงทุนทางอารมณ์ที่ผู้ชมมีต่อตัวละครให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การสำรวจธีมต่างๆ เช่น มิตรภาพ ความภักดี และความรัก ช่วยเพิ่มความซับซ้อนให้กับการเล่าเรื่อง ทำให้เป็นมากกว่าการผจญภัยแฟนตาซี
การขยายจักรวาล: ในขณะที่ “The Untamed” มุ่งเน้นไปที่ตัวละครหลักเป็นหลัก “Fatal Journey” ก็ขยายขอบเขตของการเล่าเรื่องโดยแนะนำให้ผู้ชมรู้จักกับโลกที่กว้างขึ้นของกลุ่มผู้ฝึกฝน โดยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับพลวัตของอำนาจ พันธมิตร และการแข่งขันที่เป็นตัวกำหนดภูมิทัศน์ทางการเมือง โดยให้บริบทของการต่อสู้ดิ้นรนที่ตัวละครต้องเผชิญ ส่วนขยายนี้ช่วยเสริมตำนานโดยรวมของจักรวาล “Untamed” และเพิ่มความลึกให้กับการสร้างโลก
เพลงและเพลงประกอบ: เพลงประกอบภาพยนตร์ที่แต่งโดย Lin Hai ช่วยเติมเต็มการเล่าเรื่องด้วยท่วงทำนองที่เร้าใจและทำนองบรรยากาศ เพลงดังกล่าวช่วยยกระดับประสบการณ์การรับชม โดยสร้างการผสมผสานที่ลงตัวของภาพและการได้ยิน ซึ่งจะทำให้ผู้ชมดื่มด่ำไปกับอาณาจักรอันมหัศจรรย์ของ “The Untamed” คะแนนที่สวยงามจนน่าขนลุกจับแก่นแท้ของช่วงเวลาสำคัญ ทิ้งความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้ชม
The Untamed Fatal Journey (2020) เต็มเรื่อง
ผลกระทบทางวัฒนธรรม: “Fatal Journey” มีส่วนสำคัญต่อปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับ “The Untamed” ได้จุดประกายการอภิปราย ทฤษฎีของแฟนๆ และการสร้างสรรค์ทางศิลปะภายในกลุ่มแฟนคลับ ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ตอกย้ำความนิยมของแฟรนไชส์ “Untamed” และผลกระทบที่ยั่งยืนต่อวงการบันเทิงทั่วโลก
มรดกและอนาคตในอนาคต: ในภาคก่อน “Fatal Journey” ไม่เพียงแต่ทำให้การเล่าเรื่องที่มีอยู่สมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้มีการดัดแปลงและแยกภาคในจักรวาล “Untamed” ในอนาคตอีกด้วย ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างความคาดหวังในหมู่แฟนๆ ที่จะได้สำรวจเรื่องราวที่ไม่มีใครเคยบอกเล่าของตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบและโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่
โดยสรุป “The Untamed: Fatal Journey” ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความน่าดึงดูดใจที่ยั่งยืนของแฟรนไชส์ “Untamed” ตัวละครที่น่าจดจำ และภาพที่สวยงามมีส่วนช่วยในการสร้างมรดกโดยรวมของซีรีส์นี้ ในขณะที่แฟนๆ รอคอยการพัฒนาในอนาคตอย่างใจจดใจจ่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นส่วนเสริมที่น่าภาคภูมิใจของตำนาน The Untamed Fatal Journey (2020) เต็มเรื่อง
ถึงแม้ว่ากลางทางทั้งคู่ชอบไม่ตรงกันและไม่ลงรอยกันอยู่ตลอด แม้กระนั้นเมื่อมีภัยมา พี่ใหญ่เนี่ยหมิงเจวี๋ยก็พร้อมสละชีวิตเพื่อคุ้มครองปกป้องน้องชายเนี่ยหวายซัง ผู้ เป็นน้องเองก็ไม่ละทิ้งพี่ใหญ่เช่นเดียวกัน เงื่อนไม่ตรงกันระหว่างญาติแล้วก็ค่อยๆเริ่มคลี่คลายลงสองลูกพี่ลูกน้องแล้วก็เหล่าพวกเอาชนะปัญหาที่ป่าช้าได้เสร็จ เดินทางกลับสู่เชื้อสายเนี่ย แต่ว่าผ่านไปไม่นานก็เกิดเหตุคาดไม่ถึงขึ้นอยู่กับเนี่ยหมิงเจวี๋ย
แต่ว่าในที่สุดเนี่ยหวายซังก็จะต้องสูญเสียเนี่ยหมิงเจวี๋ยผู้พี่ไปจากแนวทางร้ายของใครซักคน ภาพยนตร์ The Untamed Fatal Journey ภาคนี้เองที่เข้ามาอุดช่องว่างรวมทั้งตอบปัญหาว่าเพราะอะไรเนี่ยหวายซังก็เลยสร้างกลยุทธ์ทั้งสิ้นขึ้นมาอย่างคมคาย ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ดูเหมือนจะหายไปจากภาคซีรีส์ และก็ภาพยนตร์ ภาคนี้ก็จัดว่าทำเป็นดีอีกทั้งการวางเรื่อง การถ่ายทำ และก็ข้อสรุป ซึ่งนับว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่คอปรมาจารย์ลัทธิวิถีวรหามาเติมเต็มเรื่องราวเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับคนใดกันที่ยังไม่เคยรู้จักหรือเคยมองเรื่องปรมาจารย์ลัทธิมารมาก่อน
ภาพยนตร์ The Untamed Fatal Journey ภาคนี้ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ดิบได้ดีในฐานภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ใช้เวลาดำเนินเรื่องหนึ่งชั่วโมงกว่าๆแม้กระนั้นเก็บเนื้อหาแล้วก็ชักชวนให้ลุ้นระทึกไปตลอดทาง ซึ่งคุ้มกับการรับดูเหมือนกัน
The Untamed : Fatal Journey ปรมาจารย์ลัทธิมาร : วิญญาณเคียดแค้นที่ชิงเหอ การดำเนินเรื่องเป็นสไตล์จีน ค่อนข้างจะมากมายอย่างยิ่งจริงๆ รวดเร็วทันใจคล่องแคล่ว แม้มองแบบไม่ใส่ใจ จะหลุดเนื้อหาในทันที โดยทางพวกเราจะเอ๋ยถึง วิญญาณอาฆาตแค้นที่ชิงเหอ pantip นับได้ว่าเป็น เรื่องที่ใช้ส่วนประกอบสื่อไม่มากมาย และก็ บทสนทนาเพียงแต่ไม่กี่ประโยค แต่ว่าสามารถฮุกเข้าไปในใจ สื่อหัวข้อหลักไปเต็มๆ
ซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมารเกิดเรื่องราวของ ‘เว่ยอู๋เซี่ยน’ หรือ ‘ปรมาจารย์อี้หลิง’ ผู้มีเวทมนตร์เก่งที่ได้ตายไปสุดแต่ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกทีภายหลัง16 ปีผ่านไป ด้วยคาถาอาคมต้องห้ามเพื่อล้างแค้นให้คนที่ปลุกเขาขึ้นมาและก็แสวงหาข้อเท็จจริงบางสิ่งบางอย่าง โดยเหตุนั้นเขาก็เลยจำเป็นต้องปกปิดตัวตนที่จริงจริงจากคนที่รังเกียจเขาเป็นอย่างมากอย่างเครือญาติใหญ่ๆทั้งหลายแหล่ เพื่อไม่ให้พวกเขาทราบว่าปรมาจารย์อี้หลิงที่พวกเขาชังได้รู้สึกตัวมาจากความตายแล้วและก็หนึ่งในนั้นเป็นเครือญาติเนี่ยที่ชิงเหอ
ในภาคนี้ เรื่องราวจะจุดโฟกัสไปลำดับที่สองญาติพี่น้องเชื้อสายเนี่ย betflik898 อีกหนึ่งเครือญาติเซียนที่มีความเชื่อมโยงกับการฟื้นฟื้นของเว่ยอู๋เซียน และก็ยังเป็นผู้มีหน้าที่สำคัญสำหรับในการกำจัดเหล่าอธรรม คืนคุณความดีให้แผ่นดิน (คำคมคุ้นๆแหะ) ในซีรี่ส์หลักคาแร็กเตอร์ของคนพี่ “เนี่ยหมิงเจวี๋ย” (หวังอี้โจว) เป็นประธานเชื้อสายผู้ดุเดือด กราดเกรี้ยว แม้กระนั้นมากมายความสามารถและก็เปี่ยมล้นด้วยความดีงาม ในตอนที่คนน้อง “เนี่ยหวายซัง” (จี๋หลี) กลับนุ่มนิ่ม ลั้นลา ไม่ประสาวิทยายุทธ ทำให้คนพี่จำเป็นต้องรออบรมตำหนิอยู่บ่อยมาก
แต่ในภาคแยกนี้ จะพรีเซ็นท์มุมมองที่ต่างไป ภายใต้บุคลิกลักษณะดุเดือดกลับมีความสุภาพมีมารยาทแอบแฝง แล้วก็ภายใต้ความเล่นๆก็มีความตั้งใจจริงหลบซ่อนอยู่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่พาพวกเราไปสู่มิติลึกของสองนักแสดง รวมทั้งติดใจอย่างช่วยไม่ได้ แถมยังเป็นเหตุให้พวกเราเข้าใจในเรื่องความเกี่ยวเนื่องอันแน่นแฟ้นของสองลูกพี่ลูกน้องได้อย่างถ่องแท้ เสริมให้รู้เรื่องความประพฤติในภาคหลักอย่างกระจ่างแจ้งขึ้นไปอีก (รวมทั้งแน่ๆว่าทำให้สองดาราหลักมองโก้เก๋ น่ากรี๊ดไปอีกขั้น คาดว่าจะมีคู่รักคลับนอกหน้าจอมากขึ้นอีกเยอะแยะ)
ซึ่งเชื้อสายเนี่ยนี่แหละที่เป็นเชื้อสายหลักสำหรับการเดินเรื่องของ
“ปรมาจารย์ลัทธิมาร ภาควิญญาณเคียดแค้นที่ชิงเหอ” ซึ่งเท่าที่มองเป็นภาคที่ซ้อนทับอยู่ก่อนเหตุสำคัญจากในซีรีส์เรื่องหลักด้วย ซึ่งภาคนี้พวกเราจะได้มองเห็นประธานเครือญาติเนี่ยที่ชิงเหอ ‘เนี่ยหมิงเจี๋ย’ ในอีกมุมหนึ่งที่ในซีรีส์หลักพวกเราจะไม่ค่อยได้มองเห็นมุมนี้ของเขามากสักเท่าไรนักรวมทั้งยังได้มองเห็นมุมอีกมุมหนึ่งของ ‘เนี่ยหวายซัง’ องค์ชายรองของเครือญาติด้วยเหมือนกันเรื่องราวก็จะเอ๋ยถึง ‘วิญญาณกระบี่’ ในป่าช้ากระบี่ของเครือญาติเนี่ยที่ถูกปลุกขึ้นมาแล้วสองญาติก็ร่วมเดินทางเพื่อไปปราบวิญญาณกระบี่ร่วมกัน ทำให้พวกเราได้มองเห็นความรักความสัมพันธ์ของสองญาติคู่นี้เยอะขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิมแล้วก็ความสุภาพมีมารยาทของคนเป็นพี่ชายที่มีต่อน้องชายของเขาแล้วก็การขยายเรื่องราวที่ทำให้พวกเรารู้เรื่องเรื่องราวจากซีรีส์เรื่องหลักมาขึ้นอีกด้วยจ้ะ
จุดแข็ง
- มิติของนักแสดง กระจ่างกว่าภาคหลัก
- หน้าที่การแสดงดี อีกทั้งดาราหนังหลัก แล้วก็ ดารารอง
- คุมโทนเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รวมทั้ง ฉากต่างๆ
จุดอ่อน
- ขาดความเกี่ยวเนื่อง ของเรื่องราวในบางจุด
- การให้แสงสว่างเงา บางช่วงไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
- เล่าเร็ว ทำให้เข้าใจยาก เหมาะกับผู้ชมภาคหลักมากยิ่งกว่า
สำหรับโปรดักชันเองก็ยังคงประสิทธิภาพได้ไม่มีตก คุมโทนได้ทุกหมัด รักษามาตรฐานดีเหมือนเคย ขนาดแอกติ้งของผู้แสดงประกอบที่โผล่มาเพียงแต่เสี้ยววิก็ยังเล่นดีไม่มีแข็ง และก็ที่เด่นเป็น ฉากบู๊ที่มาเต็ม กับจังหวะตัดภาพที่เรียกความขนลุกได้พอดี จะมีก็แม้กระนั้น CG บางช็อตที่มองเล่นๆไปบ้าง แต่ว่าก็ยังจัดว่ายอมรับได้
ถึงแม้การดำเนินเรื่องยังเป็นสไตล์จีนค่อนข้างจะมากมาย เป็นดำเนินเรื่องเร็วทันใจคล่องแคล่ว ถ้าหากไม่ใส่ใจจะหลุดเนื้อหา แม้กระนั้นหัวข้อนี้กลับใช้หลัก “น้อยแม้กระนั้นมากมาย” แบบประเทศญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน เป็นเลือกใช้ส่วนประกอบสื่อความจำนวนไม่มากมายแล้วก็บทสนทนาเพียงแค่ไม่กี่ประโยค ในจังหวะที่ใช่ จนถึงสามารถฮุกเข้าไปในใจ สื่อเรื่องจำเป็นให้เชิญชวนซึ้งไปเต็มๆ
ส่วนส่วนประกอบต่างๆของหนังก็ยังคงทำเป็นดีไม่แพ้ซีรีส์เรื่องหลักเลยจ๊าCG ก็ยังมองสมจริงสมจัง( ในบางฉากก็บางครั้งอาจจะดคอยปนิดหน่อยแต่ว่านับว่าก็ไม่ห่วยแตกเท่าไร) แล้วหลังจากนั้นก็ฉากบู๊ที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิมรวมทั้งเรื่องราวที่ยังคงไม่หลุดออกมาจากภาคหลักเพราะเกิดเรื่องราวที่ทับทับกันอยู่ส่วนตัวละครก็จัดว่าผู้แสดงเข้าถึงหน้าที่รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึกของนักแสดงเจริญ
ผลสรุป The Untamed Fatal Journey (2020) เต็มเรื่อง ปรมาจารย์ลัทธิมาร : วิญญาณเคียดแค้นที่ชิงเหอ แน่ๆว่า ถ้าเกิดผู้ใดยังไม่หลุด เข้ามาในจักรวาล “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” บางครั้งก็อาจจะคุยกับสาวกท่านอื่นไม่รู้เรื่อง พวกเราขอชี้แนะให้มองภาคหลักก่อนดียิ่งกว่า เพราะว่ารายละเอียดจะอยู่ในภาคหลักทั้งปวง เพื่อกำเนิดความรู้ความเข้าใจได้ง่าย นับว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง ปรมาจารย์ ลัทธิมาร ภาค วิญญาณเคียดแค้นที่ ชิง เหอ ผู้แสดง เล่นออกมาได้สมหน้าที่ เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก ของนักแสดงเจริญ
ด้วยเหตุฉะนี้ สาวก #ปรมจ ก็เลยไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวง (ใครกันแน่ยังไม่มองสุดสัปดาห์นี้รีบจัดไปโลด สักครู่จะคุยกับสาวกท่านอื่นไม่รู้เรื่อง) แม้กระนั้นถ้าเกิดผู้ใดกันยังไม่หลุดมาเข้าในจักรวาลนี้ พวกเราขอเสนอแนะให้ไปเข้าปากทางเข้าหลักเป็นซีรีส์อีกทั้ง 50 ตอนซะก่อน ถึงจะอิน ฟิน และก็เข้าใจแจ่มแจ้ง แต่ว่าขอเตือนไว้ก่อนเลยจ๊ะว่า จักรวาลนี้เข้าได้สิ่งเดียวเป็นไปไม่ได้ออก จำต้องมูฟออนเป็นวงกลมกันถัดไป
ท้ายที่สุดต้องการเสนอแนะเลยว่าคนใดกันแน่ที่จะมองประเด็นนี้เสนอแนะให้ไปดู ‘ซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ที่เป็นภาคหลักก่อนดีมากยิ่งกว่านะคะเพื่อความรู้ความเข้าใจเรื่องราวของภาคนี้เยอะขึ้นเพราะว่าดีเทลเรื่องราวจะอยู่ในรายละเอียดของภาคหลักซึ่งมีทั้งสิ้น 50 ตอน แม้กระนั้นการันตีเลยว่าคุณจะมีความคิดว่าเรื่องมันสั้นไปด้วยถ้าหากคุณมองจบครบทุกตอน ทางค่ายเขาถึงได้ทำภาคแยกมาตั้ง2 ภาคแล้วนะคะซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็มี ‘ภาคลมหายใจของแม่ทัพผี The Untamed The Living Dead’ และก็ภาคนี้จ้ะ