fright night 1 หนังสยองขวัญที่ไม่สั่นประสาทสักเท่าไหร่ Fright Night กับการดำเนินเรื่องและก็ตัดต่อแบบแข็งทื่อๆถึงแม้มีมุขฮาๆแทรกอยู่เป็นพักๆกับนางเอกน่ารักน่าชังโคตรๆรวมทั้งซีจีก็เนียนในขั้นยอดเลยล่ะ นานๆคราว ผมจะเข้าไปดูหนังแนว Horror ในโรงภาพยนต์ เนื่องจากไม่ค่อยจะอินกับหนังจำพวกนี้สักเท่าไหร่ แม้ว่าวันนี้เกิดอยากลองของ หรืออยากได้เปลี่ยนบรรยากาศก็ไม่อาจทราบหัวใจตัวเองได้
เลือกจิ้ม ‘Fright Night คืนวันนี้ผีมาตามนัด’ fright night 1 สั่งซื้อตั๋วออนไลน์ แล้วเดินเข้าไปดูสักหนึ่งครั้งเรื่องราวของหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในแถวเวกัส ที่อยู่ๆก็มีเหตุคนหาย ไตร่ตรองได้จากมิตรสหายๆของผู้แสดงนำฝ่ายชาย Charley Brewster (Anton Yelchin จากหนังเรื่อง Star Trek, Terminator Salvation) ไม่มาโรงเรียนกันทีละคนสองคน จนกระทั่งท้ายที่สุด พวกเขาจำต้องไปพบต้นเหตุให้หายสงสัย
fright night 1 (2011) คืนนี้ผีมาตามนัด 1
ชาร์ลี บริวสเตอร์ (อันตวน เยลเคยชิน) เด็กวัยรุ่นม.ปลายที่กำลังเดินทางไปได้ดิบได้ดีกับชีวิตที่สถานที่เรียน เขาอยู่ในฝูงคนดังและก็ออกเดทกับสาวสวยที่เพศชายทุกคนในสถานศึกษาใฝ่ฝัน ที่จริงแล้ว เขาแจ๋วขนาดที่กล้าพูดจาถากถางเพื่อนเกลอของเขาเอง แม้กระนั้นปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อ พบร์ปรี่ (วัวลิน ฟาร์เรลล์) ได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านด้านข้างเขาดูเหมือนจะเป็นคนดีในตอนแรก แม้กระนั้นมีบางสิ่งที่มองไม่เข้าที่เข้าทาง ซึ่งทุกคน
รวมทั้งแม่ของชาร์ลี (โทนี่ คอลเล็ตต์) ไม่ทันได้พินิจ ภายหลังที่เขาได้มองเห็นพฤติกรรมอันพิศดาร ชาร์ลี ก็ได้ข้องสรุปที่แจ่มกระจ่างแล้วว่า พบร์ปรี่ เป็นแวมไพร์ที่ออกล่าเหยื่อในบ้านใกล้เรือนเคียงที่เขาอาศัยอยู่ ไม่มีผู้ใดเชื่อเรื่องที่เขาบอก ไม่ว่าจะเพียรพยายามชี้แจงเท่าไร ชาร์ลี ก็เลยต้องหาทางกำจัดเจ้าผีดูดเลือดตนนี้ด้วยตัวของเขาเอง กับช่วงเวลากลางคืนสุดน่ากลัว
รีวิว
เรื่องราวนี่ไม่ต้องเอาอะไรจำนวนมาก แค่เพียงมีแวมไพร์สักตัวที่เมพจำนวนมากๆมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ก็น่าจะเป็นเรื่องเป็นราวได้แล้ว เมื่อผู้แสดงนำชายรู้เรื่องของมันเข้า fright night 1 เช่นไรก็บางครั้งก็อาจจะไม่น่ารอดหลังเต่าไปได้ ร้อนจำเป็นต้องไปพึ่งคนที่เขาแน่ใจว่าจะเพียงพอเป็นตัวช่วยได้ อย่างนักปราบแวมไพร์คนมีชื่อเสียง Peter Vincent (David Tennant) ที่เขาหารู้ไม่ว่า โน่นมันกลฉ้อฉลชัดๆ
ในหนังที่ดำเนินเรื่องรวมทั้งถ่ายทำตัดต่อกันอย่างแข็งทื่อๆยังมีทั้งแวมไพร์หน้าหล่ออย่าง Jerry (Colin Farrell จากหนัง ‘Phone Booth’, ‘Alexander’, ‘In Bruges’) — งงล่ะซี่ แวมไพร์บ้าอะไรชื่อเจอร์ล้น แล้วก็มีนางเอกสาวหน้าสวยโดนตา หุ่นน่าดูพึงพอใจอย่าง Amy (Imogen Poots จากหนังเรื่อง ’28 Weeks Later’, ‘V for Vendetta’) นัยว่า ครบสูตรหนังที่จะควรมีเลยเชียว
ส่วนตัว ไม่ค่อยถูกใจเท่าไรกับหนังสยองขวัญสไตล์โบราณ แม้ว่าก็พอเพียงมีคำพูดตลกขำๆมีฉากตกใจแทรกตัวมาบ้าง สร้างสีสันได้พอสมควร หนังมีทั้งมุขขำๆฮาๆไม่ได้มาถึงแม้ว่าช็อตแอ็คชั่น หรือตกใจถึงแม้ว่าสิ่งเดียว แถมยังมีซีจีแซมแทรกเป็นระยะๆซึ่งก็จัดว่าทำเป็นดี เนียนพอเหมาะ ตอนที่เรื่องราว บางครั้งก็อาจจะไม่มีอะไรมากสักเท่าไรนัก ยังขาดความมันส์สำหรับในการลุ้นรวมทั้งน่าขนลุกไปนิด
การบรรลุวัตถุประสงค์ของหนัง Twilight แล้วก็หนังชุดทางโทรทัศน์เรื่อง True Blood ทำให้ฮอลลีวู้ดเกิดกระแสสร้างหนังแวมไพร์อีกครั้ง หนึ่งในหมายถึงโครงการหนังรีเมก Fright Night ของค่ายดรีมเวิร์ค ที่ให้เคมากมาย กิลเลสปี ผู้ที่เลื่องลือจาก Lars and the Real Girl มารับหน้าที่ดูแล ให้มาร์ตี น็อกชอน จากซีรี่ส์ Buffy the Vampire Slayer มาเขียนบท รวมทั้งให้คอลิน ฟาร์เรล มารับบทแวมไพร์ตัวร้าย ซึ่งข้อสรุปที่ออกมาแม้ว่าจะยังรู้สึกว่าไม่สมบูรณ์เท่าต้นฉบับ แต่ก็ให้ความรื่นเริง รวมถึงมีความสะดุดตาเป็นต้นแบบของตนเองขอรับ
ต้นฉบับ Fright Night ปี 1985 เป็นงานควบคุมหนแรกและเขียนบทโดยทอม ฮอลแลนด์ (ซึ่งยังให้กำเนิดหนังสยองขวัญคลาสสิคเกลียดชังฝังหุ่น Child’s Play ด้วย) ที่ไม่เพียงแค่เป็นหนังทำเงินของยุคนั้น แต่ยังได้รับความคิดเห็นในทางดีเป็นอย่างมากในทางการผสมผสานหนังสยองขวัญกับภาพยนตร์ตลกได้อย่างพอดิบพอดี
สร้างความแปลกแตกต่างกันให้หนังสยองขวัญในยุคเดียวกัน betflik898 สำหรับฉบับสร้างใหม่นี้ ผู้กำกับกิลเลสปีได้สืบทอดวิญญาณของต้นฉบับมาได้ค่อนข้างจะครบสมบูรณ์ในด้านความเป็นหนังสยองขวัญผสมตลก แต่ก็ทำให้ทันสมัยขึ้นด้วยการปรับบทใหม่ ปรับโทนให้ดูดิบ เดินเรื่องเร็ว และก็ใส่คำพูดตลกร้ายลงไปกระทั่งมีความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างมาก
หนังฉบับใหม่เข้าเรื่องเลย
จะพอได้ๆเผยต้นแบบเก่า ด้วยการเริ่มที่เจอล้น(ฟาร์เรล)ไล่ล่าอดัม(วิล เดนตัน)อย่างโหดเหี้ยมรวมทั้งสยองขวัญ แล้วตัดมาในวันพรุ่งเพื่อเสนอแนะให้เรารู้จักชาร์ลี(แอนทอน เยลเคยชิน) ผู้ชายมัธยมมาดโก้ผู้มีแม่ที่ห้าว(โทนิ คอลเล็ตต์) และมีแฟนสาวแสนสวยอย่างเอมี่(อิโมเจน พูทส์) ที่ทำให้เกิดอาการชายชายหนุ่มมัธยมคนอื่นจำเป็นต้องอิจฉาตาร้อน แล้วเอ็ด(คริสโตเฟอร์ ไม่นท์ซ-เพลส) เด็กกี๊ค(geek)ที่เพื่อนพ้องไม่ค่อยคบก็มาบังคับชาร์ลีให้ไปแวะดูอดัมที่บ้านด้วยกัน ด้วยเหตุว่าอดัมไม่ได้เข้าเรียน แล้วก็ห่วงว่าอาจเปลี่ยนเป็นเหยื่อของเจอล้นไปเสียแล้ว
ชาร์ลี, เอ็ด รวมทั้งอดัมเคยเป็นเพื่อนรักแล้วก็คลั่งเรื่องราวของมารแล้วก็แวมไพร์มาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่ว่าชาร์ลีตีจากไปเพราะเหตุว่ากลัวว่าบุคคลอื่นจะมีความคิดว่าเขาสติไม่ดี fright night 1 และที่สำคัญก็คือกลัวว่าเอมี่จะไม่รักเขา เอ็ดบอกให้ชาร์ลีรู้ดีว่าเจอล้น เพื่อนข้างบ้านของชาร์ลีนั่นล่ะ
ที่เป็นต้นเหตุของการล่อลวงงครั้งไปของคนเราในบ้านใกล้เรือนเคียง แล้วก็อดัมด้วย เพราะเจอล้นเป็นแวมไพร์ ชาร์ลีก็ย้อนกลับไปว่า “แวมไพร์อะไรวะชื่อเจอล้น” รวมทั้ง “นายคงอ่านทไวไลท์ล้นหลามไป” ซึ่งเป็นอีกทั้งคำดูถูกเอ็ด รวมถึงเป็นบทพูดที่จิกกัดหนังแวมไพรศรีเรื่องอื่นไปพร้อมเพียงกัน ทำให้เอ็ดยัวะล้นหลามที่มิตรสหายเปลี่ยนไป
แม้กระนั้นเมื่อเอ็ดล่องหนไป ชาร์ลีซึ่งรู้สึกผิดที่ว่าเอ็ดรุนแรงก็เลยออกตามหาแล้วพบข้อมูลที่เอ็ดเก็บไว้จนกระทั่งเขาเริ่มสงสัยว่าเจอล้นน่าจะเป็นแวมไพร์จริงๆเมื่อเจอล้นจับได้ว่าชาร์ลีรู้เรื่องรู้ราวจริงแล้วก็คุกคามเขา และก็แม่และแฟนสาวของเขาเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดอาการชาร์ลีจำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากปีเตอร์(เดวิด เทนแนนท์) นักมายากลผู้อ้างตนว่าเก่งเรื่องแวมไพร์ (ซึ่งแปลงเป็นว่าเขาช่ำชองจริงๆ)
อย่างที่บอกครับว่าหนังได้ปรับบทใหม่ให้ต่างจากต้นฉบับไปๆมาๆก เอานิสัยหนุ่มน้อยกี๊คคลั่งแวมไพร์ของชาร์ลีมาใส่ไว้ด้านในดาราของเอ็ดแทน แล้วเอานิสัยด้านลบส่วนหนึ่งส่วนใดของเอ็ดจากฉบับเก่ามาใส่ไว้ในชาร์ลีฉบับนี้ ทำให้ฉากเจอหน้าของทั้งคู่เมื่อเอ็ดกลายเป็นแวมไพร์ออกมาในอีกขั้วอารมณ์
ให้โอกาสไม่นท์ซ-เพลสได้เล่นบทที่เปรียบเสมือนเด็กเนิร์ดล้างโกรธเคือง รวมทั้งทำให้เกิดอาการชาร์ลีลังเลที่จะจัดการเพื่อนพ้องเยอะขึ้นเรื่อยๆอย่างกับบทปีเตอร์ที่เดิมเป็นชายแก่พิธีกรเรื่องเล่าสยองขวัญที่ดูขี้ขลาดก็เปลี่ยนเป็นนักมายากลนิสัยแสบซ่าแล้วก็ปากมาก รวมทั้งเทนแนนท์ก็ใส่ร้ายป้ายสียียวนกวนบาทาเข้าไปในบทนี้จนถึงทำให้หนังกระปรี้กระเปร่าขึ้นอย่างมาก
บทเจอล้นของฟาร์เรลก็ถูกปรับให้ต่างจากฉบับที่คริส ซาแรนดอนเคยแสดงเอาไว้ภายในแง่ที่ให้ศิลปินดูดิบไม่มีอารยธรรม มีเสน่ห์กำยำแบบผู้ชายบ้านๆและเล่นกับเหยื่อเหมือนกับตัวร้ายในหนังแนวฆาตกรโรคจิต ในขณะฉบับเก่านั้นจะดูมีมาดแบบผู้ดี มีเสน่ห์แบบคุณสุภาพบุรุษ และก็เล่นกับเหยื่อเหมือนในหนังแดรคคูล่าอดีตกาล ฟาร์เรลดูจะสนุก
ในการรับบทบาทร้ายนี้ไม่น้อยและก็ช่วยปรับให้หนังกลายเป็นขำร้ายมากขึ้นเมื่อเขาแจกมุขจากบทสำหรับพูดที่แสบๆคันๆซาแรนดอนที่เคยรับบทบาทเจอล้นในต้นฉบับก็มารับชวนเยี่ยมในเหยื่อของเจอล้นในฉบับนี้ด้วยบทชาร์ลีของเยลคุ้นชินดูเหมือนจะมีความเป็นผู้แสดงนำชายตามแบบฉบับในด้านของความกล้ามั่นคงมากกว่าของต้นฉบับ ซึ่งเยลเคยชินก็เล่นได้เสมอตัว
และไม่ค่อยต่างจากบทลูกชายของเมล กิ๊บสัน ใน Mr. Beaver หนังเรื่องก่อนหน้านี้ของเขาสักเท่าไหร่ บทชาร์ลีของต้นฉบับดูราวกับว่าเบิกบานใจมากกว่านี้ แม้กระนั้นบทที่โชคร้ายก็คือบทแม่ที่คอลเลตต์แสดง เพราะว่าคุณเคยเด่นอย่างใหญ่โตจากบทแม่ใน The Sixth Sense และ About a Boy แม้กระนั้นในหนังเรื่องนี้นั้น คุณแทบจะไม่ค่อยได้แสดงแค่ไหนเลย
แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนไปๆมาๆกในทางตัวบทหนัง ถึงแม้ Fright Night ฉบับนี้ก็ยังคงหัวใจของความเป็นหนังสยองขวัญผสมตลกของต้นฉบับไว้ค่อนข้างจะบริบูรณ์ แล้วหลังจากนั้นก็ตัวโครงเรื่องก็ไม่ต่างอะไรจากฉบับเก่าเท่าไร การเล่าเรื่องก็ลื่นไหลแล้วก็สนุกสนาน วางจังหวะดีขึ้น เมื่อจำเป็นจะต้องน่าขนลุกก็ทำเป็นน่าสยดสยอง เมื่อจำเป็นที่จะต้องลุ้นระทึกก็ทำเป็นระทึก เมื่อจึงควรฮาก็ทำเป็นฮา
แต่มาเสียหน่อยตรงช่วงท้ายที่ดูง่ายเกินจำเป็นเมื่อผู้แสดงนำฝ่ายชายกับผู้กระทำผิดกฎหมายต้องเจอหน้ากันครั้งสุดท้าย อันเป็นเหตุผลให้หนังยังสู้วัตถุโบราณไม่ได้ เพราะว่าอารมณ์ตอนสุดท้ายของต้นฉบับนั้นทำเป็นถึงจุดสุดยอดมากกว่า คงจะดีมากกว่านี้ถ้าเกิดฉบับนี้ให้ผู้ร้ายตายยากกว่านี้อีกหน่อย fright night 1 ให้เราได้ลุ้นกับผู้แสดงนำชายนานกว่านี้อีกนิด อารมณ์ตอนสุดท้ายของหนังบางทีอาจไปได้สุดว่านี้ในขณะที่หนังขึ้นเครดิตจบท้ายที่เบาๆขึ้นชื่อดาราแล้วหลังจากนั้นก็คณะทำงาน หนังใช้เพลง “99 Problems” ของฮิวเก๋มาประกอบตอนน
รีวิว Meg 2 The Trench หนังปลาฉลามสายเบิกบาน สาระช่างเถอะขออวดชุ่มฉ่ำๆ
5 ปีกลายอาจไม่มีผู้ใดมีความรู้สึกว่า ‘The Meg’ จะเปิดศักราชใหม่ของ “หนังปลาฉลาม” ให้แก่วอเนอร์ บราคุณร์ส (Warner Bros.) ในฐานะหนังไซไฟร่วมสร้างระหว่าง จีน กับ สหรัฐฯ ที่ประสบผลสำเร็จด้านรายได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนแล้วก็ความฉลาดอย่างหนึ่งของ ‘The Meg’ เป็นการดึงแอ็กชันสตาร์อย่าง เจสัน สเตแธม (Jason Statham) มารับบทนำคู่กับดาราหนังจีนเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้ชาวโลกได้อย่างชาญฉลาด
มาปีนี้ ‘Meg 2:The Trench’ กลับมาพร้อม เบน วีทลีย์ (Ben Wheatley) ผู้กำกับใหม่แต่ว่ายังคงไว้ซึ่งอะไหล่เดิมทั้งยัง สเตแธม,คลิฟ เคอร์ทิส (Cliff Curtis) แล้วก็ เพจ เคนเนดี้ (Page Kennedy) ในบทลูกไล่ของผู้แสดงนำชาย หรือจนกระทั่ง ยกหยา โซเฟีย ไช่ (Shuya Sophia Cai) ในบทเหมยอิง บุตรสาวของนักแสดงนางเอกภาคแรก โดยเหตุการณ์ในหนังภาคนี้ก็กำเนิดวิกฤติเมื่อแผนตรวจสอบห้วงมหาสมุทรของกลุ่มผู้แสดงนำชาย
รวมทั้ง ดร. จิวหมิง (อู๋ จิง) น้องชายนางเอกภาคแรกดำลงไปยังร่องมหาสมุทรแล้วก็พบว่ามีคนลักลอบระเบิดหินใต้มหาสมุทรจนถึงทำให้ปลาฉลามเม็กกะโลดอนตัวใหญ่รวมทั้งน้ำหมึกยักษ์หลุดออกมาแล้วก็มุ่งหน้าเพื่อไปสู่เกาะมหาบันเทิงใจจัดเตรียมงับผู้คนทางฝั่งการแสดงเปลี่ยนเป็นว่าบทหนังที่ออกจะมีเนื้อเหลวไปสักนิดสักหน่อย ไม่สามารถที่จะสร้างเสน่ห์อะไรก็ตามให้กับทุกผู้แสดงออกมาได้เลย
ทุกติดอยู่แรกเตอร์เปลี่ยนเป็นนักแสดงที่ใส่เข้ามาเฉยๆแบบไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็ตามซึ่งสามารถสร้างความผูกกับผู้ชมได้เลย ในขณะที่กลุ่มผู้แสดงก็แน่นเอียดเต็มหน้าจอไปหมด แต่ว่าหนังยังล้มเหลวกับการผลิตภาพจำด้วยกลเม็ดของตน มั่นใจว่ามองจบ..พวกเราบางทีอาจจะคิดชื่อจริงละครบางตัวไม่ออกเสียด้วยซ้ำแม้กระนั้น “ณัฎฐ์ ธุระจริต” เป็นนายหามประจำประเด็นนี้ให้โดยแท้จริง เขาชี้ให้เห็นว่าผู้แสดงมือโปรและก็ตัวจริงเป็นเยี่ยงไร
ด้วยลีลาท่าทางการแสดงทะเล้นๆกวนๆเป็นธรรมชาติ ที่แปลงเป็นว่าเขาใช้ความถนัดการเป็นแสดงของตนเองมาสร้างเสน่ห์ให้กับผู้แสดงของเขาได้เองอย่างน่าประทับใจ fright night 1 นี่ก็เลยแปลงเป็นหนึ่งในละครและก็น่าจะเป็นค้างแรกเตอร์เดียวที่ผู้ชมจะคิดออก รวมทั้งหลงใหลไปพร้อมเพียงกันบทหนังดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากนิยาย ‘The Trench’ ของ สตีฟ อัลเทน (Steve Alten) นักเขียน ‘The Meg’ ต้นลำธารของหนังภาคแรก
โดยโอกาสนี้มันก็อาศัยความเป็นหนังภาคต่อสำหรับเพื่อการไม่เล่าที่มาอะไรทั้งมวล เพราะว่าผู้ชมรู้จักกับนักแสดง โจนาส เทย์เลอร์ ของสเตแธมอยู่แล้ว แล้วก็ครั้งนี้สิ่งที่โจนาสจะต้องพบเจอก็แค่ลงยานตรวจและก็ช่วยกลุ่ม ดร. จิวหมิงกับเหมยอิงให้ไม่เป็นอันตรายโดยมีตัวละครสมทบที่หนังจะเบาๆฆ่าให้ตายตามกันไปเพื่อลดภาระหน้าที่สำหรับเพื่อการเล่า ซึ่งด้วยเสน่ห์ของสเตแธมก็จำต้องสารภาพว่าเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมยังอยู่กับหนังได้